อาร์แซน แวงเกอร์ กุนซือต่างชาติผู้สร้างตำนานไร้พ่ายหนึ่งเดียวบนดินแดนผู้ดี

ก่อนที่พรีเมียร์ลีกจะเต็มไปด้วยผู้จัดการทีมต่างชาติอย่างในปัจจุบัน ทุกสโมสรนิยมเลือกใช้ผู้จัดการทีมที่มาจากเครือจักรภพเท่านั้น ด้วยความเชื่อว่าคนจากสหราชอาจักรถึงจะเข้าใจวัฒนธรรมฟุตบอลอังกฤษและพาทีมประสบความสำเร็จ แต่แล้วแนวความคิดชาตินิยมนี้ก็ถูกหักล้างลงเมื่อ อาร์เซน่อล เลือกแต่งตั้ง “อาร์แซน แวงเกอร์” เป็นผู้จัดการทีมในปี 1996 กุนซือชาวฝรั่งเศสได้พาทีมปืนใหญ่กวาดแชมป์มากมายบนเกาะอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกโดยไม่แพ้ใครตลอดทั้งฤดูกาล

อาร์เซน่อลถือเป็นหนึ่งในสโมสรระดับบิ๊กของอังกฤษ ในช่วงทศวรรษ 1930 ทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ถึง 5 สมัย ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะมาหยุดความร้อนแรงของพวกเขาลง อาร์เซน่อลกลับมาเป็นทีมหัวแถวอีกครั้งในยุคของจอร์จ เกรแฮม ด้วยการทำทีมเน้นเกมรับที่เหนียวแน่น ส่งผลให้เดอะกันเนอร์คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ถึง 2 สมัย แต่เมื่อลีกสูงสุดเปลี่ยนผ่านมาสู่พรีเมียร์ลีก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งด้วยสไตล์การเล่นเกมบุกที่ตื่นเต้นเร้าใจ ผู้บริหารของอารเซน่อลจึงตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการแต่งตั้งผู้จัดการทีมต่างชาติคนแรก อาร์แซน แวงเกอร์ ได้ทำการเปลี่ยน บอริ่งอาร์เซน่อล ให้กลายเป็นทีมที่เล่นบอลอย่างสวยงาม เน้นจ่ายบอลสั้นในพื้นที่แคบ ๆ และมีการเข้าทำประตูที่รวดเร็ว

หลังเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่แห่งทีมลอนดอนเหนือ แวงเกอร์ได้ทำการปรับปรุงสนามซ้อม ปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝึกซ้อม ควบคุมอาหาร และห้ามนักเตะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงนำเข้านักเตะต่างชาติฝีเท้าฉกาจฉกรรจ์ในราคาย่อมเยาว์ จนอาเซน่อลก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งไล่ล่าแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างเต็มตัว และเพียงฤดูกาลที่สองกุนซือเมืองน้ำหอมก็พาทีมปืนใหญ่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรก พ่วงด้วยแชมป์เอฟเอคัพ นับเป็นการคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นสมัยที่สองของสโมสร แม้จะพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ แต่แวงเกอร์กลับมีเป้าหมายที่สูงกว่านั้นด้วยการเป็นทีมแรกของอังกฤษที่เป็นแชมป์แบบไร้พ่าย ซึ่งเขามักจะกระตุ้นลูกทีมก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ จนกระทั้งขุนพลปืนโตทำได้สำเร็จในที่สุด

ฤดูกาล 2003-04 อาร์เซน่อลผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ด้วยผลงานชนะ 26 นัด เสมอ 12 นัด และไม่แพ้ทีมใดเลย ทิ้งห่างรองแชมป์อย่างทีมปีศาจแดงถึง 11 คะแนน โดยทีมไร้พ่ายทีมแรกของพรีเมียร์ลีกประกอบไปด้วย เยนส์ เลห์มันน์ ผู้รักษาประตูคนใหม่ที่เก็บคลีนชีตไปถึง 15 เกม, โซล แคมป์เบลล์, โคโล่ ตูเร่, โลร็อง เอตาเม่, แอชลีย์ โคล แผงแบ็กโฟร์อันแข็งแกร่งที่เสียประตูเพียง 26 ลูก, ปาทริก วิเอร่า และกิลแบร์โต้ ซิลวา มิดฟิลด์คู่กลางที่คุมแดนกลางได้อย่างอยู่หมัด, เฟดริค ลุงเบิร์ก และโรแบร์ ปิแรส ปีกความเร็วสูงที่เปิดบอลแม่นและยิงคมทั้งคู่, เดนนิส เบิร์กแคมป์ กองหน้าจอมเก๋าที่เทคนิคแพรวพราว ปิดท้ายด้วยเธียร์รี่ อองรี เครื่องจักรผลิตสกอร์ที่สังหารไปถึง 30 ประตู

ภายหลังเป็นแชมป์ไร้พ่าย ทีมอาร์เซน่อลชุดดังกล่าวได้รับฉายาว่า “Invincibles” และทางพรีเมียร์ลีกยังทำถ้วยแชมป์สีทองมอบให้เป็นอนุสรณ์แห่งความสำเร็จในครั้งนี้ แม้หลังจากนั้นอาร์แซน แวงเกอร์จะไม่อาจพาอาร์เซน่อลกลับไปเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีก แต่ทีมชุดดังกล่าวก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นทีมที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกจนถึงปัจจุบัน

เครดิตภาพ: https://i1.wp.com/metro.co.uk/wp-content/uploads/2018/05/sei_10700736.jpg