“ฮูลิแกน” ต้นต่อยุคมืดของวงการฟุตบอล และโศกนาฏกรรมเฮย์เซล

ฮูลิแกน นับเป็นรอยด่างแห่งวงการฟุตบอล เนื่องจากอันธพาลลูกหนังเหล่านี้จะคอยสร้างความเดือนร้อนให้กับทุกที่เมื่อเดินทางไปถึง ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสิ่งของสาธารณะ ทำร้ายร่างกายแฟนบอล ลามไปจนถึงการก่อจลาจล ทั้งที่เรียกตัวเองว่าแฟนบอลแต่กลับสร้างปัญหาให้กับสโมสรที่ตามเชียร์อย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งถูกปรับทั้งถูกแบน จนในที่สุดการทะเลาะวิวาทก็ถูกพัฒนาความรุนแรงไปเป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากมาย ซึ่งชาติที่มีปัญหาเรื่องฮูลิแกนมากที่สุดคืออังกฤษ ประเทศที่ถูกขนานนามให้เป็นเมืองผู้ดี

ฮูลิแกน คาดว่าเป็นคำที่เพี้ยนมาจาก ฮูลิแฮน ซึ่งเป็นนามสกุลของอันธพาลชื่อดังชาวไอริชนาม แพทริค ฮูลิแฮน ที่ก่อคดีฆ่าตำรวจจนถูกจำคุกตลอดชีวิต โดยกองเชียร์หัวรุนแรงอยู่คู่กับฟุตบอลอังกฤษมาอย่างยาวนาน แต่มาทวีความรุนแรงขึ้นในยุค 70-80 อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้แรงงานจำนวนมากต้องตกงาน โดยเฉพาะแรงงานวัยหนุ่มที่ปลดปล่อยความโกรธไปพร้อมกับการเชียร์ฟุตบอล จนเกิดการตั้งกลุ่มฮูลิแกนขึ้นในหมู่แฟนบอลแทบทุกสโมสรในอังกฤษ ซึ่งทำการยกพวกตะลุมบอนกันทั้งนอกและในสนามอยู่บ่อยครั้ง โดยความรุนแรงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศอังกฤษเท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงการแข่งขันในเวทียุโรป ไม่ว่าจะเป็นการก่อจลาจลของแฟนบอลลีดส์ ยูไนเต็ดในนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1975 หรือแม้แต่การทะเลาะวิวาททั้งก่อนและหลังเกมการแข่งขันของแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในศึกคัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1977-78 เป็นผลให้ทั้งสองทีมจากอังกฤษถูกแบนเป็นเวลา 1 ปี

และแล้วการจลาจลก็ทวีความรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม ในปี 1985 ลิเวอร์พูลผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยนคัพ ซึ่งได้ยูเวนตุสเป็นคู่ต่อกร โดยการแข่งขันถูกกำหนดให้จัดขึ้นที่สนามเฮย์เซล กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม แม้หลายฝ่ายจะทัดทานอันเนื่องมาจากความทรุดโทรมของสนาม แต่ยูฟ่าก็ยืนกรานที่จะใช้สนามแห่งนี้ จนกระทั้งในวันแข่งขันก่อนที่เกมจะเริ่มต้นขึ้นไม่นาน แฟนบอลหงส์แดงก็ยกพวกทำลายแนวรั้วเหล็กดัดข้ามไปตะลุมบอนกับแฟนบอลม้าลายอย่างโกลาหล ด้วยความเก่าแก่ของสนามทำให้อัฒจันทร์เกิดการถล่มลงมาเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 39 คน และผู้บาดเจ็บกว่า 600 ราย หลังเหตุการณ์สงบเกมนัดชิงจึงเริ่มต้นขึ้น โดยยูเวนตุสเป็นฝ่ายคว้าชัยไปด้วยลูกจุดโทษของมิเชล พลาตินี่ กลายเป็นแชมป์สมัยแรกของยูเวนตุสบนความเศร้าโศกและการสูญเสีย นับเป็นช่วงเวลาแห่งความมืดมนของวงการฟุตบอลยุโรปทีเดียว

หลังจากเกิดโศกนาฏกรรมเฮย์เซลเพียงไม่กี่วัน ยูฟ่าก็ออกคำสั่งแบนทีมจากอังกฤษไม่ให้ลงแข่งขันในทุกรายการอย่างไม่มีกำหนด ไม่ว่าจะเป็นศึกยูโรเปี้ยนคัพ, คัพ วินเนอร์ส คัพ และยูฟ่าคัพ ก่อนจะมายกเลิกโทษแบนในฤดูกาล 1990-91 เท่ากับถูกแบนไปทั้งสิ้น 5 ปี ส่วนลิเวอร์พูลถูกแบนเพิ่มอีก 1 ปี กลายเป็นสโมสรที่ต้องเป็นฝ่ายแบกรับผลกรรมจากสิ่งที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ

ฮูลิแกนเดินมาถึงคราวอวสาน เมื่อรัฐบาลสนับสนุนให้กลุ่มทุนเข้ามามีบทบาทในวงการฟุตบอล นอกจากจะช่วยยกระดับมาตฐานสนามให้มีความปลอดภัยแล้ว ค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่แพงขึ้นยังเป็นเครื่องมือกีดกันให้กลุ่มฮูลิแกนออกห่างจากวงการฟุตบอลอีกด้วย แม้จะไม่ได้ทำให้ฮูลิแกนสาบสูญไป แต่ก็ไม่มีความรุนแรงเหมือนในอดีตให้เห็นอีกเลย

เครดิตภาพ: https://www.dw.com/image/19324029_401.jpg